-
Forth & Fluke Parents
สัมภาษณ์คุณแม่น้องโฟร์ท น้องฟลุ๊ค
คุณแม่ให้น้องเรียนดนตรี เพราะว่า?
อยากให้เค้ามีสมาธิ ใจเย็น แล้วก็อยากให้เค้าเป็นเครื่องดนตรีสักอย่างหนึ่งเล่นดนตรีถือเป็นกิจกรรมยามว่างของน้องรึเปล่าคะ?
ก็เป็นทั้งกิจกรรมในยามว่าง และน้องเค้าอยากจะเรียนอย่างจริงจังด้วย เพราะเค้าคิดว่า เมื่อเริ่มเรียนแล้วต้องเรียนให้ดีค่ะคุณแม่มองอนาคตในการเรียนดนตรีแค่ไหนคะ?
ไปเรื่อยๆเลยค่ะ อยากให้เค้าตั้งใจในสิ่งที่จะทำ ไม่ใช่ว่าเรียนแล้วเราจะมาทิ้ง อย่างนี้มันน่าเสียดายค่ะแสดงว่าน้องแฮปปี้กับการเรียน?
มากค่ะ เพราะว่าน้องเค้า มีความสุขและมุ่งมั่นที่จะทำให้มันออกมาดีด้วยคุณแม่รู้จัก Aime’ Musique ได้ยังไงคะ?
ขับรถผ่านค่ะ เพราะอยู่ใกล้หมู่บ้าน ตอนแรกได้คุยกับคุณพ่อว่าเราจะให้ลูกเรียนที่ นี่ดีมั้ย? เพราะว่าโรงเรียนเค้ายังใหม่ แต่มองดูแล้วเราเห็นว่าสะดวกดี ใกล้บ้าน เลยแวะเข้ามาดู ถ้าเกิดว่าเข้ามาเรียนแล้วเนี่ย ดีไม่ดียังไงเดี๋ยวเราค่อยตัดสินใจอีกทีนึง ก็ให้น้องเข้ามาลองเรียนดูก่อนค่ะเมื่อคุณแม่เข้ามาแล้วมีความประทับใจไหมคะ?
ประทับใจมาก โดยเฉพาะคุณครูที่นี่ค่ะ คือมีทั้งเทคนิกการสอน แล้วเค้าไม่ได้สอนดนตรีอย่างเดียว เค้าสอนเรื่องอื่นๆ ในสิ่งที่ดี และให้รู้ว่าสิ่งไหนที่ไม่ดีให้ลูกเรารับรู้ด้วยน้องมีพัฒนาการอย่างไรบ้างหลังจากที่เรียนไปได้ระยะหนึ่ง?
คุณแม่เห็นว่ามีสมาธินะ เค้าจะนิ่งขึ้น แล้วก็มีความรอบคอบมากขึ้นด้วยอารมณ์เค้า ก็ใจเย็นขึ้น จากที่แต่ก่อนเค้าใจร้อน แล้วก็โผงผาง แต่เดี๋ยวนี้ทำอะไรก็รู้จักคิดก่อนแบ่งเวลาและให้กำลังใจน้องอย่างไรบ้างคะ?
มันต้องเริ่มจากให้เค้าต้องรักก่อน รักแล้วก็เหมือนเค้าให้ได้เต็มร้อย เราก็จะต้องคอยพูดคอยบอกว่า สิ่งๆนี้ในอนาคตข้างหน้ามันจะมีประโยชน์กับตัวเค้ายังไง? เราเป็นผู้ใหญ่ต้องบอกเค้า และเดี๋ยวพอเค้าได้มาสัมผัสเรื่อยๆเนี่ย มันจะซึมซับไปเอง ตอนแรกโฟร์ทเข้ามา เค้าไม่ได้รักเปียโนเลยนะคะ แต่พออยู่ไปอยู่มามันเหมือนเป็นส่วน หนึ่งในตัวเค้าค่ะ พอวันหยุดเค้าก็จะซ้อมเปียโน เล่นเกมส์ ดูการ์ตูน อ่านหนังสือ มันเหมือนมีทางเลือกอื่นที่มีประโยชน์กับตัวเค้า คือ ไม่ใช่แค่เกมส์ แต่มีดนตรีเข้ามาด้วยแสดงว่า น้องเค้าเริ่มชอบดนตรีแล้ว ใช่มั๊ยคะ?
ใช่ค่ะและทำให้น้องคนเล็กซึมซับเสียงดนตรีจากเสียงเปียโนของพี่ ทำให้น้องบอกว่า อยากเรียนอยากเล่นบ้าง เนี่ยะน้องก็มาถามว่าเมื่อไหร่หม่าม๊าจะพาฟลุ๊คมาเรียน จนทุกวันนี้ก็พาน้องเค้ามาสมัครเรียนเรียบร้อยแล้วค่ะเวลาที่ซ้อมมีเหนื่อยบ้างมั้ยคะ? แล้วคุณแม่ได้ให้กำลังใจยังไงบ้าง?
เราก็จะบอกเค้าว่า ต้องพยายามนะ ถ้าเกิดพยายามยังไงก็ได้ลูก ต้องอดทน ที่ผ่านมายังผ่านมาได้เลย ตรงนี้ยังไงก็ต้องได้แล้วคุณพ่อ คุณแม่มีพื้นฐานดนตรีมาก่อนมั้ยคะ?
ไม่มีเลย เพราะเราไม่มีโอกาสนี้ไง บอกตรงๆ เราถึงบอกเค้าเลยว่า โอกาสอย่างนี้เด็กน้อยคนที่จะได้เรียน เราเห็นอย่างนี้ว่าเด็กคนอื่นก็เรียนกันเป็นเรื่องปกติ แต่ลูกเราเคยมองดูข้างนอกมั้ย ที่น้อยคนนักที่เค้าจะมีโอกาสได้เรียนดนตรี เราก็พยายามบอกลูกว่า เนี่ยโอกาสมาแล้วนะลูก ทำมันออกมาให้ดีที่สุด
-
Poon's
Parentsสัมภาษณ์คุณแม่น้องปุญ
คุณแม่ให้น้องเรียนดนตรีเพราะว่า?
คิดว่าดนตรีมีความสำคัญเยอะค่ะ มันก็เป็นเครื่องกล่อมเกลาจิตใจ ทำให้อารมณ์ เค้านิ่ง แล้วก็ช่วยให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ค่ะ
รู้จัก Aime’ ได้ยังไงคะ?
คือพี่ย้ายบ้านมาอยู่ตรงนี้ ก็ขับรถผ่านมาก็เจอที่นี่ แล้วก็ตัดสินใจเรียนที่ Aime’ เพราะหนึ่งคือ สถานที่สะดวกใกล้บ้าน สองเป็นโรงเรียนดนตรีเล็กๆ ขออนุญาต พูดตรงๆ นะคะ พี่ว่าโรงเรียนที่นี่ทำด้วยใจจริงๆ ในความรุ้สึกพี่ เป็นโรงเรียนดนตรีที่มี ความอบอุ่น มีความเป็นบ้าน บรรยากาศสบายๆ มาแล้วรู้สึกสบายค่ะ
ความประทับใจที่มีต่อ Aime’ Musique?
ตั้งแต่ครั้งแรกเลยดีกว่า คือเมื่อเข้ามาสอบถามถึงการเรียนและหลักสูตร คุณครูก็ให้ คำแนะนำ คือถ้าเด็กอยากเรียน ก็ดูว่าเรียนอะไรดีคะ ก็ให้เด็กไปลองก่อน พี่ว่าอันนี้เป็นอันแรก สอง มันเป็นช่วงที่เด็กเค้าได้ทดลองค่ะ ว่าเค้าอยากเรียนอะไร สามปีที่ผ่านมา พี่ว่าก็ถือเป็นเวลาที่พิสูจน์ได้พอสมควร
Aime’ ได้ตอบโจทย์ที่คุณแม่คาดหวังจากการเรียนดนตรีได้อย่างไรบ้างคะ?
อืม ตอบโจทย์ยังไง พี่ว่ามาเรียนเนี่ย เค้าสนุกกับการเรียน ไม่รู้สึกว่าโดนบังคับ ยกเว้นช่วงที่ต้องไปซ้อม 555 แต่พอถึงเวลาที่ต้องมาเรียน พี่ว่าเค้ากระตือรือร้นที่จะมาเรียนค่ะ คือถ้าเด็กอยากจะมามันต้องมีอะไรที่มันสนุก อย่างปีนี้ ลูกพี่ ป.6 ใช่มั๊ยคะ ก็จะตัดหลายวิชาออกไป แต่อย่างไวโอลินเนี่ย คือสิ่งที่เค้าขอร้องไว้ว่ายังอยากเรียนอยู่ แถมยังเพิ่มกีตาร์ไฟฟ้าเข้ามาอีก เออ.. พี่ว่ามันก็เป็นอะไรอย่างนึง ที่ตอบในตัวของมันเองค่ะ
คุณแม่มีความตั้งใจที่จะสนับสนุนทางด้านดนตรีไปในระดับไหนคะ?
เรียนไปเรื่อยๆเลยค่ะ หากมีวิชาติดตัว และเป็นความสุขเฉพาะ สิ่งนี้ก็จะติดตัวเค้าไปจนโต
หลังจากที่ได้มาเรียนแล้ว น้องมีพัฒนาการด้านไหนที่เห็นได้ชัดคะ?
เรื่องที่หนึ่งคือวินัย เช่นเรื่องของการกลับไปแล้วต้องซ้อม ด้วยความที่พี่ว่า เค้าชอบครู พอชอบครู ครูบอกอะไรไปเนี่ย เค้าก็จะเชื่อฟัง และทำตามที่ครูบอก พี่ว่านี่คือวินัยในการซ้อมดนตรี สอง เค้าได้ขยายผลทางดนตรีด้วยค่ะ เค้าสามารถอ่านโน้ต แล้วไปเล่นเครื่องดนตรีชิ้นอื่นได้ด้วย ซึ่งพี่มองว่า มันได้อะไรมากกว่าที่เราคาดคิดเอาไว้ค่ะ ^_____^
-
Perth & Palmy Parents
สัมภาษณ์คุณแม่น้องเพิร์ทและน้องปาล์มมี่
คุณแม่คิดว่าการเรียนดนตรีมีความสำคัญยังไงคะ?
มีความสำคัญในแง่การพัฒนาทางด้านอารมณ์และก็จิตใจของเด็กค่ะ อยากให้เค้ามี ดนตรีสักอย่างนึง คิดว่ามันทำให้จิตใจเค้า นุ่มนวลแล้วก็ละเอียดอ่อนขึ้นค่ะน้องเรียนเครื่องดนตรีอะไรคะ?
เรียนเปียโนค่ะ ทั้งคู่เลยค่ะทำไมถึงเลือกให้เรียนดนตรี แทนที่จะให้เรียนกวดวิชาเหมือนคนอื่นๆคะ?
ที่โรงเรียนเนี่ยวิชาการเค้าก็ได้แล้ว และเค้าก็ไม่ได้มี ปัญหาหรือมีอะไรที่ต้องกังวลทางด้านวิชาการ รู้สึกว่าถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ เค้าน่าจะได้อยู่กับสิ่งที่เค้าชอบ ซึ่งจริงๆ แล้ว ก็คือเปียโนเนี่ยล่ะค่ะคุณแม่รู้จัก Aime’ Musique ได้ยังไงคะ?
รู้จักจากพี่สาวเพราะลูกเค้าเรียนที่นี่อยู่แล้ว และอีกส่วนนึงก็คือน้องมิงค์ (คนรู้จัก) แนะนำไป พอดีมีสองส่วน พอคุยกันก็ เอ้ย!!! มันเป็นที่เดียวกัน ก็เลยมาดูที่นี่ค่ะความประทับใจที่มีต่อ Aime’?
ตั้งแต่เข้ามาก็คือบรรยากาศของโรงเรียน เข้ามาก็เหมือนกับเป็นบ้าน ได้พาลูกมาทำกิจกรรม ซึ่งเป็นกิจกรรมที่อยู่นอกบ้านเหมือนได้พาเค้ามาฝึกทักษะที่เค้าชอบค่ะ สิ่งที่รู้สึกว่าดีก็คือ น้องชอบและน้องก็มีความสุขกับการที่ได้มาเรียนที่นี่ค่ะ ^^หลังจากที่มาเรียนแล้ว น้องเค้ารู้สึกอย่างไรบ้าง?
อย่างคนโตเนี่ยเค้าเริ่มบอกแล้วว่าเค้าชอบ และตัวเค้าเองก็เริ่มจะมุ่งมั่นต่อไปเรื่อยๆค่ะพัฒนาการที่เห็นได้ชัดหลังจากที่น้องเรียนดนตรีคือ?
ก็ตามสมมติฐานตอนต้นว่าดนตรีน่าจะมีผลทางด้านจิตใจ อย่างเวลาที่เพิร์ธเค้าเครียด หรือหงุดหงิดเนี่ย เค้าก็จะวิ่งเข้าหาเปียโน และเค้าก็จะเล่น เล่นไปสักพักนึงก็รู้สึกว่า เออมันซอฟท์ลงนะ เหมือนหงุดหงิดอะไรมา ก็จะรีแล็กซ์และก็อารมณ์ดีขึ้น ซึ่งช่วยได้เยอะในด้านจิตใจ และก็นิ่งขึ้น สงบขึ้น เวลาที่ทำอะไรเราก็จะเห็นเลยว่าเค้ามีสมาธิ นอกจากอารมณ์และก็จะเป็นในแง่ของ การใช้เวลาว่างของเค้า แทนที่จะไปอยู่กับเกมส์เยอะๆ เวลาส่วนนึงก็มาอยู่กับดนตรี และพอพี่เล่น น้องมา น้องเห็นน้องก็อยากเล่น ก็อยู่กับดนตรีด้วยกันทั้งคู่ ก็ลดเวลาที่อยู่กับเกมส์ไปอยู่กับดนตรีแทนน้องท้อบ้างไหมคะ เวลาที่ซ้อมเพลงยังไม่ได้?
ก็มีบ้าง แต่ก็จะบอกเค้าว่า ใจเย็นๆ ถ้าผ่านไปแล้วมองกลับมาทุกอย่างมันก็จะง่าย อีกอย่างนึงก็คือ บอกเค้าว่า ให้ตั้งใจและก็ค่อยๆไป ถ้าไม่ได้ก็พัก แล้วก็เริ่มใหม่ บางทีก็พักโดยการที่ให้เพิร์ธไปสอนน้อง เค้าก็จะแบบว่า เฮ้ย!..ชั้นโอเคนะ ชั้นสอนน้องได้หลังจากที่ได้มาเรียนแล้ว น้องเค้าเริ่มชอบดนตรีเพิ่มขึ้นมั๊ยคะ?
ก็คอยเช็คเค้านะคะ ว่าเค้าเล่นดนตรี เค้ารู้สึกยังไง เค้าคิดว่าเค้าจะไปยังไงกับอนาคตทางด้านเปียโน ตอนนี้ก็รู้สึกว่าเค้าเต็มที่กับมัน เค้าอยากเป็นนักเปียโน เป็นความตั้งใจ ณ ตอนนี้นะคะ เขียนเรียงความที่โรงเรียน บอกเลยค่ะ ว่าอยากเป็นนักเปียโน ก็ลองเอามาให้เราอ่าน เราก็แบบ เฮ้ย!!! เอาจริงหรอ ช่วงเวลาเรียนอยู่ที่โรงเรียน เค้าก็จะทำท่าเล่นเปียโนโดยที่ไม่มีเปียโน (ใช้จินตนาการ) แล้วเค้าก็จะบอกว่าเค้าได้ยินเสียง อินมาก…อินมาก คนโตเนี่ยะอินมากคุณแม่ได้ให้ประสบการณ์ทางดนตรี เช่น การพาไปดู คอนเสิร์ต บ้างมั๊ยคะ?
คุณพ่อพาไปเรื่อยๆค่ะ ก็จะมีที่มหิดล (ศาลายา) ก็จะไป หรือว่าหอประชุมจุฬาฯ ตอนเย็นคุณพ่อก็จะพาเค้าไปนั่งฟัง ให้เห็นว่าวงออเครสต้าเป็นไง ให้เห็นว่าการเล่นเปียโนบนเวทีเป็นอย่างนี้นะ และก็สร้างเป้าหมายให้เห็นแล้วก็จะถามเค้าว่า อยากเป็นอย่างนั้นมั้ย อยากเป็นอย่างนี้มั้ย เค้าก็ อืม… เริ่มเห็นว่า เล่นดนตรีมันทำให้เราฟังแล้วเรามีความสุข ถ้าเกิดเพิร์สอยู่ตรงนั้นก็สามารถสร้างความสุขให้คนอื่นได้เหมือนกัน มันก็เหมือนกับเป็นการสร้างความฝันให้เค้าดูว่า เอ๊ะ เค้าสนใจมั้ย เค้าก็เรียกร้องให้พาไปดูอีกด้วยนะคะ ว่าพ่อมีอีกมั๊ยๆๆ อะไรอย่างนี้ -
Gent & Nin Parents
สัมภาษณ์คุณแม่น้องเกนท์และน้องนิน
ทำไมถึงเลือกให้น้องเรียนดนตรีคะ?
เพราะว่าตอนท้องได้อ่านหนังสือ และได้เจอบทความว่าดนตรีจะช่วยเรื่องของอารมณ์ รวมถึงประสาทสัมผัสก็เลยสนใจขึ้นมา แล้วก็อยากให้เค้าเรียนรู้สิ่งอื่นๆรอบตัวมากกว่า ไม่ได้ต้องการให้เค้าวิชาการจ๋ามากเกินไปด้วยค่ะรู้จักAime’ Musique ได้ยังไง?
บ้านอยู่ในหมู่บ้านนี้ค่ะ เดินทางสะดวกด้วย เราก็ไม่อยากเอาลูกเข้าไปที่ห้าง คุณครูที่นี่ก็โอเค ที่นี่เหมาะกับทุกอย่างแล้วประทับใจมั๊ยคะ?
ประทับใจค่ะ คิดมาระยะสามปีครึ่งเนี่ยไม่ย้ายไปที่ไหนเลย ถึงแม้จะมีสถาบันที่อื่น แต่ ก็ไม่คิดที่จะย้ายไปค่ะ ^__^ความประทับใจที่มีต่อ Aime’?
ประทับใจในเรื่องความเอาใจใส่ของครูค่ะ อย่างเด็กๆบางวันก็จะงอแง คุณครูก็จะมีวิธีที่จะโน้มน้าวเด็กให้เข้าไปเรียนในวันนั้นได้ค่ะ แล้วพอเรียนเสร็จ เด็กๆก็ยิ้มออกมาทุกครั้งพัฒนาการของน้อง หลังจากได้มาเรียนดนตรีแล้ว?
เรื่องของอารมณ์ค่ะ อย่างคนโตแต่ก่อนก็จะเอาแต่ใจไม่มีเหตุผล พอมาเรียนก็ดีขึ้นคุณแม่ได้จัดเวลาซ้อมเปียโน อย่างไรคะ?
จัดเวลาให้เค้าโดย ทุกทีเค้าจะทำการบ้านเสร็จประมาณสองทุ่ม ก่อนขึ้นนอนแม่ก็จะให้เค้าซ้อม 10-15 นาที บางครั้งเค้าก็ไม่อยากซ้อม คุณแม่ก็ให้วินัยว่าเค้าต้องซ้อมเวลานี้ ทุกวันนี้ก็จะมีสมุดดาวค่ะ ก็คือถ้าเค้าซ้อมครั้งนึงก็จะให้ดาวดวงหนึ่งไว้สะสม ถ้าเต็มเล่มก็จะได้ของเล่นเล็กๆชิ้นนึง ก็ใช้ได้ผลกับทั้งสองคนนะคะ จนตอนนี้สมุดดาวเต็มบ้านเลยค่ะได้ให้กำลังใจยังไงบ้าง เวลาที่น้องทำไม่ได้?
น้องก็มีท้อค่ะ แต่ก็จะบอกว่าทำไม่ได้ไม่เป็นไร พักแป๊บนึงแล้วให้เค้าลองใหม่ คุณแม่เองก็ลงคอร์สเรียนเปียโนด้วยค่ะ เพราะเราไม่รู้ดนตรีมาก่อน ก็ลงเรียนไปให้พอได้พื้นฐาน บางทีให้เค้าเล่นมือซ้ายเราเล่นมือขวา จะได้ซ้อมด้วยกันได้ เค้าก็จะเออ.. คุณแม่มาเล่นด้วยกันซิ บางทีก็ไปเล่นด้วยค่ะ ^^
-
Stack's Parents
สัมภาษณ์ผู้ปกครองน้องสแต็ก
เพราะอะไรคุณพ่อ คุณแม่ถึงให้น้องเรียนดนตรีคะ?
คุณแม่: เพราะว่าตอนท้องคุณแม่ก็อ่านหนังสือ เค้าก็ให้เด็กฟังดนตรี เราก็ฟังตั้งแต่เราท้องแล้ว ไปโบสถ์เราก็ฟังเพลงนมัสการพระเจ้า พอเค้าเกิดมาเราก็จะเปิดเทปให้เค้าฟังตั้งแต่เล็ก เหมือนกับพี่สาวเค้าคือเราจะเปิดให้เค้าฟังตั้งแต่เล็กจนโต ทีนี้พอเค้าโตขึ้นมาในระดับหนึ่ง เราก็เห็นว่าสแต๊กนี่เป็นเด็กที่สมาธิสั้นอย่างเห็นได้ชัด จริงๆตั้งแต่เล็กก่อนไปโรงเรียนอนุบาล เค้าก็ออกอาการซนมาก คิดว่าสมาธิเค้าสั้น เราก็คิดอยู่ว่า จะต้องมีอะไรที่ช่วยเค้าได้ ทีนี้เนื่องจากมีเพื่อนที่โบสถ์ที่เป็นครูสอนเด็ก เค้าก็แนะนำ และให้หนังสือมาอ่านด้วย ว่าเด็กที่เป็นแบบนี้ น่าจะให้เรียนดนตรีน่าจะช่วยได้ ก็เลยให้เค้าเรียนเปียโน เพื่อที่จะช่วยเรื่องสมาธิของเค้าค่ะแล้วพอได้เรียนเปียโน คุณพ่อคุณแม่ว่าช่วยเรื่องสมาธิได้ไหมคะ?
คุณพ่อ : หลังจากเรียนดนตรี เค้าก็สมาธิดีขึ้น การควบคุมตัวเองมีมากขี้น ดีขึ้น ไม่วอกแวก ไปนู่นไปนี่ คือทำให้เค้านิ่งขึ้น ทำให้การฟังเค้าดีขึ้น ไม่งั้นสมัยก่อน จะทำนู่นทำนี่ แล้วเวลาใครจะพูดอะไรเค้าก็จะไม่สนใจอะไรซักเท่าไหร่ แต่พอหลังจากเรียนดนตรีแล้ว จะเห็นว่าพัฒนาการทางการฟังเค้าดีขึ้นใช้เวลานานไหมคะ ที่รู้สึกว่าน้องเค้าดีขึ้น?
คุณแม่ : ไม่นานนะคะ จริงๆ ปีแรกจะเห็นผลร็วมาก คือพอเริ่มปุ๊บเนี่ยจะเห็นผลเร็ว เพราะว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น อย่างการสื่อสารเค้าจะดีขึ้น คือการฟังเนี่ยะสำคัญ ทำให้เค้าฟังคนรอบข้างมากขึ้น อยู่ร่วมกับสังคมได้มากขึ้น เพราะเมื่อก่อนตอนสแต๊กเล็กๆ นี่จะซนมาก ทุกวันนี้ตั้ง 10 กว่าปีแล้วนะที่เรียนมา เพื่อนๆก็จะพูดถึงสแต๊กเสมอแล้วในโบสถ์ก็มีเด็กที่เป็นสมาธิสั้น หรือเป็นเด็กพิเศษเหมือนกัน ส่วนมากคุณพ่อคุณแม่ที่เค้ารู้จักเราเค้าก็จะเข้ามาถาม เพราะว่าเค้าเห็นการเปลี่ยนแปลงของสแต๊ก เราก็จะแนะนำให้เค้าไปเรียนเปียโน ในโบสถ์ก็จะมีเด็กๆ เรียนเปียโน เรียนแซกโซโฟน กันหลายคน
จริงๆแล้วน้องเรียนดนตรีที่อื่นมาก่อน แล้วสาเหตุที่คุณแม่ตัดสินใจมาเรียนที่ Aime’ เพราะอะไรคะ?
เพราะว่าแต่แรกความพร้อมเราไม่ค่อยมี ความพร้อมหมายถึงว่า ด้านค่าใช้จ่าย เพราะเรียนเปียโนค่าใช้จ่ายมันสูง เราก็เลือกเรียนโรงเรียนที่ค่าใช้จ่ายไม่แพงมาก ซึ่งโรงเรียนมันก็ไปตามคุณภาพ ก็ไปตามราคาของค่าเรียน แล้วพอเค้าเรียนไปซักพักนึงเราเริ่มเห็นว่าเค้าเอาจริงเอาจังมากขึ้น แต่พอเราคุยกับทางโรงเรียนเดิม ก็เหมือนกับผู้ที่สอนเค้าขาดความเชื่อมั่นในตัวเด็ก เพราะเค้าไม่คิดว่าสแต๊กจะพัฒนาไปได้ซักแค่ไหน พอดีตอนนั้น AIme’ เปิดใหม่ๆ เราก็ได้มาคุยกับคุณครู พร้อมเอาลูกมาให้ครูเห็นด้วย แล้วเวลาครูคุยกับเค้า เราก็รู้สึกว่า อืม..มันคนละแบบกับทางนั้น ค่อนข้างมีความมั่นใจ ในวิชาการที่นี่ ในตัวครูที่นี่ ก็เลยให้สแต๊กมาสมัครดู แล้วพอเรียนไปซักพักเราจะเห็นเลยนะคะว่า มันเปลี่ยนไป มันแตกต่างจริงๆ มันดีขึ้น ทีนี้เราก็ประหยัดซิคะ ประหยัดค่าน้ำมันรถ ที่ต้องไปส่งเค้าเอา มาเป็นค่าเรียน ก็เลยทำให้เราได้เรียนแบบที่ดีขึ้น คุณภาพมันดีกว่ากันเยอะเลยค่ะคุณแม่เห็นความแตกต่างอย่างไรคะ?
คุณแม่: ครูที่นี่สามารถจะรู้จักเด็ก ว่าข้างในเค้ามีอะไรบ้าง ในขณะที่โรงเรียนเดิมเค้าไม่เห็นอะไรในตัวสแต๊กเลย เค้าเห็นความซนของสแต๊ก เป็นอุปสรรค แต่ว่าที่นี่กลับมองเห็น มองอีกอย่างหนึ่งเลย มองไม่เหมือนกัน ทำให้เรามีความหวังว่า เออ..ลูกเราน่าจะไปได้ดีกว่านี้ แล้วพอมาเรียนที่นี่เค้าก็เปลี่ยนไปจริงๆ แล้วพอเค้ามาเรียนที่นี่ เค้าก็รักการเล่นมากขึ้น เอาใจใส่มากขึ้น เหมือนกับว่าพอมันโดนแล้ว ใช่เลย เค้าก็ไปได้เลย แบบนี้ค่ะคุณพ่อ: คือการเรียนที่นี่ดูเป็นระบบ พอมาเรียนแล้วครูสามารถอธิบาย ทำให้เราเห็นเป็นระบบ ว่าเด็กสามารถพัฒนาไปได้เรื่อยๆ ทำให้เราเห็นว่า ในเมื่อ โรงเรียนเป็นระบบ ถ้าเรียนไปเรื่อยๆ เด็กก็จะพัฒนาขึ้น แล้วก็จากได้คุยกับครู ทำให้เห็นว่าครูมองเห็นเด็กชัดเจนคือ เข้าใจเด็ก และก็เอาใจใส่เด็ก จากการที่สามารถพูดในส่วนของเด็ก ที่จะพัฒนา ในด้านที่ควรจะพัฒนา และแนวทางในการที่จะดำเนินต่อไป คือครูได้พูดทำให้เราได้เห็นภาพ ทำให้เราเข้าใจ แล้วจากการที่ครูพูด แล้วเราทำตาม เราก็จะเห็น การพัฒนาการของเด็กไปเรื่อยๆ จนเป็นรูปธรรม แล้วมันก็ยังไปต่อ ไปได้เรื่อยๆ ก็ทำให้ยิ่งมั่นใจในตัวโรงเรียน และมั่นใจในตัวคุณครูมากขึ้นไปอีก
Aime’ ได้ตอบโจทย์ที่คุณพ่อคุณแม่ คาดหวังอย่างไรบ้าง
ตอนแรกที่ เราให้เรียนเพราะเราเป็นคริสเตียน เราคิดว่าน่าจะมีกิจกรรมให้ลูกเราทำในโบสถ์ เช่นช่วยเล่นเปียโน ให้แก่คริสจักร แต่พอเค้าเรียนแล้ว เค้ามีความสุขกับการเรียนดนตรี และดนตรีทำให้เค้าเรียนหนังสือรู้เรื่อง คือปกตินี่เค้าเป็นคนที่เรียนหนังสือไม่ดีเลย แต่พอได้มาเรียนดนตรี การเรียนเค้าก็ดีขึ้นด้วย เพราะการฟังดีไงคะ ก็เลยทำให้เค้าเข้าใจ ทำให้เรียนหนังสือดีขึ้นด้วย จากเป้าหมายแรกที่จะให้ ลูกเล่นเปียโนเพื่อรับใช้ในโบสถ์ ก็กลายเป็นว่ามีผลตามมาว่าเรียนหนังสือดีขึ้นด้วย แล้วการที่เค้าได้เล่นเปียโนที่บ้าน มันเป็นการ relax ของเค้า มันเป็นการพักผ่อนของเค้า ทุกครั้งที่เค้าได้เล่นเปียโนเค้าจะไม่เครียด เค้าจะมีความสุขกับมัน ทำให้เป้าหมายมันเปลี่ยนไป พอมาถึงระดับโต สแต๊กเค้าเริ่มคิดเกี่ยวกับดนตรี แตกออกไปอีก นอกเหนือจากที่เรียน ไปถึงเรื่องการแต่งทำนอง เนื้อร้อง มีเพลงของตัวเอง พอตอนนี้เค้าก็กล้าที่จะตัดสินใจเรียนทางด้านดนตรี ทั้งที่เราไม่เคยคิด คือที่เราให้เรียน Aime’ เราคิดว่าให้เรียนไปพร้อมๆกับวิชาการ แต่ลูกคนนี้ คือเค้ารักที่จะเล่น ตอนนี้ก็สอบติดแล้วด้านดนตรี ก็ขอขอบคุณทางโรงเรียนที่สนับสนุนด้วยค่ะคุณแม่ได้จัดเวลาซ้อมอย่างไรบ้างคะ?
เล็กๆสแต๊กนี่เริ่มซ้อมตั้งแต่ 15 นาที พอโตขึ้นมาหน่อยก็เริ่มเป็น ครึ่งชั่วโมง แล้วค่อยมาเป็น 1 ชั่วโมง ทุกวันนี้เค้าซ้อมวันละ 2-3 ชั่วโมง พอเค้าได้จับเปียโนแล้ว เค้าจะอยู่กับมันตลอดเลย ค่ะคือตอนแรกคุณแม่เป็นคนจัดตาราง?
คุณแม่: ใช่ค่ะ คุณแม่เป็นคนจัด แล้วก็ให้เค้าซ้อมทุกวันด้วย แล้วเราก็นั่งฟังเค้า เหมือนกับให้กำลังใจเค้า เค้าก็จะรู้สึกว่าเล่นให้พ่อ ให้แม่ฟัง เหมือนมีคนอยากฟังเค้า พอตอนโต ก็จะซ้อมเอง คืออยากจะเล่นเอง เวลาเค้าเจอเปียโนที่ไหน หรือไปสถานที่ที่มีเปียโน เค้าก็จะวิ่งเข้าไปเล่นเองเลยแล้วช่วงสอบดนตรี มีการแบ่งเวลาในการซ้อมอย่างไรคะ?
จริงๆแล้วสแต๊กเค้าเป็นเด็กที่ไม่ชอบการแข่งขัน เราก็บอกเค้าว่าการไปสอบนี่เป็นการแข่งกับตัวเอง ถึงจะสอบไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร จะได้รู้จักตัวเอง ว่าเราแค่ไหน แล้วมันก็เป็นการเปิดโลกด้วย ไม่เป็นกบในกะลา แบบนี้ค่ะช่วงเตรียมสอบนี่เค้าก็จะซ้อมวันละ 6 ชั่วโมง ต่อวัน โดยเราจะแบ่งเวลาเป็น 3 เวลา คือทานอาหารเสร็จแล้วก็ ซ้อมครั้งละ 2 ชั่วโมง คุณแม่ก็นั่งฟังไป 55555 ซึ่งการไปสอบนี่ เราคิดว่าคุ้มมาก เพราะจะเห็นเลยว่าเค้าไปได้แบบปรื๊ด..เลย มันเป็นการฉีกตัวเองไปเลย บางทีการไปสอบก็ส่งผลเหมือนกันนะคะ ^____^
-
Khaofang's Parents
สัมภาษณ์คุณแม่น้องข้าวฟ่าง
คุณแม่ให้น้องเรียนดนตรี เพราะว่า?
อยากจะให้เค้า มีพัฒนาการทางด้านอารมณ์เป็นหลัก เพราะว่าได้ข้อมูลมาว่าดนตรี มีส่วนสำคัญในการพัฒนาทางด้านอารมณ์ น้องจะได้นิ่ง เค้าเรียนตั้งแต่อนุบาลสาม ที่จำได้เลยนะคะ ว่าพอดูแล้วเนี่ยพัฒนามากขึ้นเลยค่ะ มีความรู้สึกว่า เค้านิ่งขึ้นอย่าง เห็นได้ชัดถ้าเทียบกับเพื่อนๆ อันนี้คือความคาดหวังเลยค่ะประทับใจที่มีต่อ Aime’ คือ?
ประทับใจในความเอาใจใส่ของครู คือครูให้ความสนใจ เหมือนมีการวางแนวทางไว้ให้ เด็กว่าเด็กควรจะสอบอะไร เมื่อไหร่ ดูความพร้อมของเด็ก และไม่ปล่อยปละละเลยเด็กค่ะ ครูจะมองพัฒนาการของเด็ก แล้วดูว่าเค้าพร้อมหรือยังที่จะปรับอะไรไปทางไหน ก็คือชอบตรงนี้ค่ะ ที่ครูเอาใจใส่เด็กค่ะAime’ ตอบโจทย์ยังคะ?
คือเค้าสนใจในส่วนของดนตรีเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ ความสามารถจากการเรียนเปียโน ทำให้เค้าสามารถ ที่จะเล่นเครื่องดนตรีชิ้นอื่นได้ด้วย คือพอเค้ามีพื้นฐานทางโน้ตดนตรี เวลาไปเล่นเครื่องดนตรีอื่นน้องก็จะไปได้ไวขึ้น เลยไปถึงดนตรี ไทยด้วยเลยนะคะ ^^แบ่งเวลาในการซ้อมอย่างไรคะ?
เค้าก็จะแบ่งเวลา อย่างวันธรรมดาการบ้านเยอะ การซ้อมก็จะน้อยหน่อย ส่วนใหญ่ก็จะซ้อมในวันเสาร์-อาทิตย์ เค้าก็จะซ้อมแล้วก็แบ่งเวลาของเค้าเอง โดยเฉพาะเวลาใกล้สอบเปียโนเนี่ยะค่ะ เค้าก็จะซ้อมมากขึ้นค่ะน้องมีท้อไหมคะ แล้วคุณแม่ได้ให้กำลังใจน้องอย่างไรบ้าง?
บางครั้งก็มีท้อ ยิ่งในช่วงตอนใกล้ๆสอบ ซึ่งเค้าก็มีความตั้งใจในส่วนนี้ คุณแม่ก็พยายามให้กำลังใจ ก็คอยบอกเค้าว่า ให้เค้าค่อยๆพยายามค่ะ ค่อยๆทำในส่วนนี้ มันไม่เกินความสามารถของเค้าหรอก ถ้ามีความพยายาม คุณแม่ก็จะคอยบอกน้องอย่างนี้ค่ะคุณแม่ได้ให้ประสบการณ์ทางดนตรี เช่น พาไปดูคอนเสิรติ์ บ้างไหมคะ?
ก็พาเค้าไปดูคอนเสิรต์เมื่อมีโอกาสนะคะ คิดว่าสำคัญนะคะ เพราะว่าเค้าจะได้เห็นส่วนของดนตรีที่หลากหลาย อย่างล่าสุดมีศิลปินที่น้องเค้าชอบ ซึ่งก็เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เค้า จนมีเหตุการณ์หนึ่งเมื่อศิลปินกำลังแสดงเปียโนอยู่ในขณะที่เพลงยังไม่จบ แล้วมีคนลุกขึ้นเดินออก หมายถึงเดินไปเข้าห้องน้ำนะคะ น้องเค้าก็จะรู้สึกหงุดหงิดมากเลยค่ะ น้องเค้าก็บอกว่า ทำไมไม่นั่งดูให้เพลงจบก่อน อันนี้เรื่องจริงเลยค่ะ เค้าหงุดหงิดมากเลย ;P -
Arm's
Parentsสัมภาษณ์คุณแม่น้องอาร์ม
คุณแม่คิดว่าดนตรีมีความสำคัญอย่างไรคะ?
ก็คิดว่าดนตรีมีความสำคัญมากค่ะ เสริมสร้างจินตนาการ ช่วยให้มีสมาธิ แล้วก็อยากให้เค้ามีจิตใจอ่อนโยนด้วย คือคิดว่าดนตรีน่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาได้หลายๆ ด้าน ก็เลยอยากให้น้องมาเรียนนะคะ ตอนแรกก็เปียโน แต่ตอนนี้ก็เพิ่มกีตาร์ไฟฟ้า เข้ามาด้วยเพราะน้องอาร์มเค้าอยากเรียนค่ะรู้จักAime’ Musique ได้อย่างไรคะ?
รู้จักเพราะเห็นป้ายโฆษณาค่ะ ก็เลยคุยกันกับเพื่อนว่า มีสอนดนตรีตรงนี้ลองมาดูกันไหมแล้วทำไมถึงเลือกให้ลูกเรียนดนตรีแทนวิชาการ?
คิดว่าน้องเค้าเรียนวิชาการที่โรงเรียนก็เยอะอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่ามาเรียนดนตรี น่าจะดีกว่าค่ะ ไม่อยากให้น้องเครียดกับการเรียนมากเกินไปด้วยค่ะแล้วสาเหตุที่ตัดสินใจเลือกเรียนที่ Aime’ เพราะว่า?
ตอนแรกเลยที่ตัดสินใจมาเรียนที่นี่เพราะที่นี่ใกล้บ้าน สะดวก และหลังจากที่น้องเรียนไปซักพักก็เห็นว่าที่นี่ก็สอนดีค่ะ คุณครูเอาใจใส่ดูแลน้องดี ชอบบรรยากาศของสถาบันด้วย คุยกับเพื่อนที่เอาลูกมาเรียนด้วยกัน ก็คิดแบบเดียวกันเลย คือประทับใจคุณครูมากค่ะ เรียนแล้วเห็นพัฒนาการชัดเจนAime’ ได้ตอบโจทย์ที่คุณแม่คาดหวังจากการเรียนดนตรีได้อย่างไรบ้างคะ?
ก็ได้อย่างที่คาดหวังไว้ค่ะ คือตอนแรกที่พาน้องมาเรียน คืออยากเสริมทักษะดนตรี เพราะคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับตัวเค้า พอน้องเรียนไปซักระยะ คุณครูก็พาไปสอบ เราก็รู้สึกภูมิใจที่น้องเค้าทำได้ เห็นว่าเค้ามีความพยายาม ช่วงที่มีการซ้อมหนักๆ บางทีน้องก็เหนื่อยแต่เราก็คอยให้กำลังใจเค้าค่ะคุณแม่มีความตั้งใจที่จะสนับสนุนทางด้านดนตรีไปในระดับไหนคะ?
อยากให้เรียนไปเรื่อยๆเลยค่ะ อยากให้ดนตรีเป็นอีกวิชานึงที่ติดตัวเค้าไปจนโต ส่วนคนเล็กก็คิดว่าให้เรียนอยู่แล้ว ตั้งใจว่าพอคนเล็กเข้าอนุบาลก็จะให้เค้ามาเรียนค่ะ
-
Sunsun's Parents
สัมภาษณ์คุณแม่น้องซันซัน
ความสำคัญของการเรียนดนตรี?
ดนตรีก็จะช่วยพัฒนาน้องให้มีสมาธิในการเรียนมากขึ้นน่ะคะ แล้วก็เค้าจะได้มีความคิดสร้างสรรค์รู้จัก Aime’ ได้อย่างไร?
คือมีลูกพี่ลูกน้องเรียนก่อนแล้วค่ะ แล้วคุณแม่ก็เห็นพัฒนาการของเค้า จากตอนแรกเค้าจะซนหน่อย แต่พอมาเรียนแล้วเค้ามีสมาธิมากขึ้น ก็เลยคิดว่าน่าจะเอาลูกมาเรียนดูค่ะแล้วสาเหตุที่ทำให้คุณแม่ตัดสินใจที่มาเรียนที่นี่?
ส่วนนึงก็มาจากลูกพี่ลูกน้องค่ะ แล้วเราก็มาดูที่สถาบัน ดูบรรยากาศ ก็โอเคค่ะ อบอุ่นเป็นกันเอง ก็เลยตัดสินใจได้ว่ามาเรียนที่นี่ดีกว่าค่ะความประทับใจที่มีต่อ Aime’?
คุณครูที่นี่ดูแลน้องดีค่ะ แล้วก็ใจเย็นที่จะสอนน้อง ซึ่งตอนที่มาเรียนเนี่ย น้องยังเล็กมาก ซึ่งต้องดูแลมากกว่าเด็กที่โตๆแล้วค่ะตอนนั้นน้องซันอายุเท่าไหร่คะ ที่เริ่มมาเรียน?
ก็สามขวบกว่าๆ เองค่ะ น้องก็มาเรียนแล้ว ซึ่งถือว่าเล็กมากค่ะAime’ตอบโจทย์มั๊ยคะ?
น้องเค้ามีสมาธิมากขึ้นนะคะ ใช้เวลากับดนตรีได้ครั้งละนานๆซึ่งเราก็ภูมิใจที่ว่า ลูกสามารถอยู่กับดนตรีที่เค้ารักคุณแม่มีความตั้งใจที่จะสนับสนุนทางด้านดนตรีไปในระดับไหนคะ?
คุณแม่ก็จะสนับสนุนไปเรื่อยๆเลยค่ะ ก็ต้องเรียนไปเรื่อยๆจนกว่าจะสูงสุดเลยค่ะพัฒนาการของน้องซัน หลังจากที่ได้มาเรียนดนตรี?
ที่ดูเนี่ยนะคะ เค้าสามารถแยกเสียง และจังหวะดนตรีได้มากขึ้นแล้ว และก็สมาธิเค้าดีขึ้นมาก รวมทั้งเค้าจะทำกิจกรรมอย่างอื่นก็ได้ครั้งละนานๆ คือมีสมาธิมากขึ้นน่ะค่ะคุณแม่ได้จัดเวลาซ้อมเปียโน อย่างไรคะ?
คือต้องกำหนดเวลาให้น้อง ทำการบ้านต้องอันดับแรกก่อน หลังจากนั้นก็คือเป็นเรื่องของดนตรี แล้วถ้าน้องจะเล่นเกมส์อะไร ก็จะกำหนดเวลาการในการซ้อมดนตรี สักครึ่งชั่วโมงให้เค้าก่อน แล้วที่เหลือค่อยไปเล่นเกมส์ค่ะได้ให้กำลังใจน้องอย่างไรบ้าง เวลาที่ทำไม่ได้?
จะบอกเค้าว่าจริงๆเค้าทำได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลานิดนึง ถ้าเค้าตั้งใจทุกอย่างก็จะสำเร็จค่ะ ^^ -
Mew's
Parentsสัมภาษณ์คุณแม่น้องมิว
คิดว่าดนตรีมีความสำคัญยังไงคะ?
คุณแม่ว่าช่วยในเรื่องของจิตใจ ให้เด็กมีความอ่อนโยนนะ มันสามารถช่วยให้เค้า คลายเครียดได้ ใช้ดนตรีเป็นเครื่องผ่อนคลายได้ค่ะรู้จัก Aime’ ได้ยังไงคะ?
เห็นป้ายติดประกาศสอนเปียโน คุณแม่ก็สนใจ และคิดว่า อยู่ใกล้บ้าน มีความสะดวก เพราะว่าปกติไปเรียนที่ห้าง รถติด แล้วก็เหนื่อยกับการเร่งรีบ มาเรียนที่นี่ก็ประหยัดเวลาเดินทางด้วยค่ะหลังจากมาเรียนที่นี่แล้ว น้องเป็นยังไงบ้างคะ?
รู้สึกว่าน้องสนใจเรียนมากขึ้น และคุณแม่เองก็ประทับใจในครูที่นี่ ที่มีอัธยาศัยไมตรีดีทุกคนค่ะพัฒนาการที่เห็นได้ชัดหลังจากที่น้องเรียนดนตรีคือ?
เห็นได้ชัดคือ ทางด้านอารมณ์ค่ะ เค้าก็จะเป็นคนอารมณ์ดี ไม่ขี้โมโห มองโลกในแง่ดี แล้วก็มีสมาธิกับการเรียนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดค่ะน้องแบ่งเวลาซ้อมอย่างไรคะ?
น้องเค้าก็จัดสรรเวลาของเค้าเอง น้องเค้าโตแล้ว พี่ดูแล้ว เค้าก็มีความรับผิดชอบมากขึ้นด้วยค่ะคุณแม่ให้กำลังใจน้องอย่างไรบ้างคะ?
แม่ก็ขอให้น้องเค้าเล่นให้แม่ฟังหน่อย และแม่เองก็จะพยายามหาเพลงมาให้เค้าเล่น บอกว่าแม่อยากฟังเพลงนี้ เพื่อเป็นแรงจูงใจ เค้าก็จะได้มีกำลังใจที่จะฝึกค่ะ ^_^